นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนสังคมมากๆ กับคำว่า “เพื่อน” ที่กลุ่มเพื่อนต้องแตกเพราะคำโกหก ความไม่จริงใจ และการสร้างเรื่องเพื่อขอยืมเงิน จนเพื่อนๆ รับไม่ได้ถึงขั้นตัดเพื่อนกันเลยทีเดียว

ล่าสุด เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และ ข้าวโพด สมิทธินันท์ 2 ผู้เสียหายจากประเด็นร้อนของเพื่อน ได้ออกมาไลฟ์คู่กันครั้งแรก พร้อมกับเคลียร์ใจถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยไม่ชอบหน้ากัน ถึงขั้นเกลียดเลยทีเดียว

เจนี่ “ฉันอยากรู้ว่า โป๊ะแรกที่เพื่อนสงสัยว่าเขาเป็นคนอย่างนี้”

ข้าวโพด “โป๊ะแรกเลย ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแต่มันนานแล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งลูกฉัน น้องจิ๋ว ไปเล่นที่บ้านเขาบ่อยมาก แล้วน้องจิ๋วไปเล่นบาสเก็ตบอล ลูกเขาชอบเล่นบาสเก็ตบอล แล้วลูกกูไปทำลูกบาสเก็ตบอลโดนโต๊ะที่เป็นยี่ห้อ FENDI แตก มันเป็นหินอ่อน แล้วฉันเป็นคนดี ฉันก็บอกลูกฉันเป็นคนเล่นซนเอง ไปทำโต๊ะ FENDI เขาแตก แล้วฉันก็ช็อก แล้วเพื่อนคนนั้นก็ส่งบิลมาให้ดูเฉยๆ ว่ามันราคาเท่าไหร่ มันก็ 148,000 บาท แต่รู้มาทีหลังว่า โต๊ะตัวนั้นเขาได้มาครึ่งราคา แต่เขาส่งมาให้ข้าวโพดราคาเต็ม แล้วตอนที่ข้าวโพดเอาเศษซากของโต๊ะนี้ไปซ่อมที่ร้านหินอ่อน แล้วคนที่เขาซ่อมโต๊ะเขาบอกว่า คุณข้าวโพดครับโต๊ะตัวนี้มันเคยแตกมาแล้วนะ มันมีรอยซ่อมมาแล้ว ก็คือโต๊ะตัวนี้มันเคยแตกมาแล้ว เคยซ่อมมาแล้ว ซื้อมาในราคาครึ่ง แต่ข้าวโพดจ่ายเขาเต็ม เพราะข้าวโพดรู้สึกแย่ ลูกเราไปทำซนบ้านเขา”

ข้าวโพด “ข้าวโพดก็เลยรู้สึกว่าวันนั้นอ่ะข้าวโพดกลับมาร้องไห้เลย แล้วโพดทำโทษลูก ข้าวโพดกับลูกอ่ะคุยกันนานมาก เหมือนบ้านแตกนิดนึงเพราะราคามัน 148,000 บาท มันแพงมาก แต่ฉันก็ไม่อยากให้เรากับเพื่อนเรามีปัญหากัน แต่นี่ก็หลานเขาไง ถ้าสมมติว่าเขาไม่อยากให้ฉันให้เงินเขาเต็มๆ เขาก็ควรจะโอนคืนกลับมาหรือทอนกลับมา แต่เขาก็เก็บเอาไว้ ทั้งๆ ที่ว่าโต๊ะนั้นมันแตกมาแล้ว อันนี้เป็นสัญญาณลางๆ แรกที่คิดว่ามีอะไรซัมติง ก็เพื่อนที่รักกัน ถ้าสมมติว่าลูกกูไปบ้านมึง ทำแตก แต่คนดีๆ คงไม่กล้ารับ นั่นคือสัญญาณแรกในชีวิตที่ข้าวโพดรู้สึกว่ามีความแปลกๆ”

...

เจนี่ “สัญญาณสอง ที่รู้สึกว่ามันหนักๆ เลย”

ข้าวโพด “สัญญาณสองโพดรู้สึกว่า เขาเริ่มพูดเรื่องโพดไม่ดีกับหลายๆ คน ทั้งๆ ที่เขาบอกว่าเขารักโพดมาก”

เจนี่ “แล้วได้ยินมาจากใคร”

ข้าวโพด “แกได้ยินจากคนประมาณ 10 คนได้ คือไปทุกกรุ๊ปอ่ะ 10 กว่าคน คือโพดไปกรุ๊ปไป คือทุกคนจะเป็นอย่างนี้เว้ย ถ้ารู้จักโพดอ่ะ”

เจนี่ “มึงรู้มั้ย กูได้ยินเรื่องมึงทุกวันเลย”

ข้าวโพด “คือโพดรักเขามากเว้ย รักเขามาก คือเวลาโพดไปไหนก็จะได้ยินว่า อีโพด มึงก็เป็นคนดีคนหนึ่งนี่หว่า”

เจนี่ “รู้มั้ย กูได้ยินจนกูแบบ”

ข้าวโพด “มึงเกลียดกูอ่ะ พูดเลย”

เจนี่ “ใช่ แต่เอาจริงๆ นะ ฉันได้ยินเรื่องเพื่อนจนมันฝังเข้าไปในสมองเลยว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นบุคลิกนี้แบบไปแล้วอ่ะ จนทำให้ฉันรู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่ฉันจะต้องเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ ฉันจะไม่กล้าคุยแม้แต่คำว่าฮัลโหลอ่ะ จริงๆ คือมันฝัง”

ข้าวโพด “กรรมเวรมั้ยเนี่ย เอาจริงๆ”

เจนี่ “ซึ่งจริงๆ ถ้าเกิดไม่ได้มาคุยกับโพดโดยตรง เจนจะไม่รู้เลยว่า โพดเป็นคนที่แบบเป็นเหมือน เจนี่เทียน เป็นคนตรงๆ มีอะไรแฟร์ๆ รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รักจบ แต่คือมันมีบางอย่างที่ทำให้เจนรู้สึกว่า แม้แต่คำว่า ฮัลโหล”

ข้าวโพด “กูว่าของเข้ากูแล้ว”

เจนี่ “แม้แต่คำว่า ฮัลโหล กูยังไม่กล้าที่จะเอ่ยกับมึงเลย เพราะว่ามันฝังอยู่ในสมอง ประมาณว่าไม่อยากให้คน 2 คนนี้มาเจอกัน”

ข้าวโพด “เขาไม่อยากให้เราสนิทกัน”

เจนี่ “ใช่ แล้วถ้าเจนกับข้าวโพดเจอกัน มันต้องรักกันแน่ๆ”

ข้าวโพด “มันต้องรักกันแน่ๆ เพราะมันว่ามันจริงใจ มันพูดภาษาเดียวกัน มันเป็นคนจริงใจ เนอะ”

เจนี่ “มันเลยทำให้เจนกับข้าวโพดเป็นคนที่แบบมึงอย่าได้เจอคนนี้นะ เดี๋ยวมึงรักกัน”

ข้าวโพด “กูเข้าใจได้ เพราะว่าตั้งแต่ที่ข้าวโพดรู้สึกอย่างนั้นเพราะกลุ่มที่ข้าวโพดไป เขาก็จะไปบอกกับทุกๆ คน ก็คือว่าโพดคิดว่ามันทำให้เกิดหลายๆ โป๊ะ แต่กูคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนพูด เขาอาจจะเป็นคนนิสัยแบบนั้น as long as she loves me กูก็จะรักเขา ซึ่งไม่เป็นไร การนินทามันก็มีได้กับทุกคน เป็นเรื่องปกติในสังคมผู้หญิง คือบางทีมีเพื่อนมาเล่าให้ฟังด้วยนะว่าเขาไปพูดเรื่องกูให้แม่อีกคนหนึ่งฟัง แบบไม่ให้แม่เขาชอบกูอ่ะ แม่นะเว้ยเกี่ยวอะไรด้วยวะ ไปบอกว่า แม่ขอโทษด้วยนะ อีโพดมันเป็นคนแบบอย่างนี้ คือพี่พวกเรานี้แหละเขามาบอกว่า มึงเพื่อนคนนี้เขาพยายามให้แม่ไม่ชอบมึงด้วย”

เจนี่ “เออ ใช่”

ข้าวโพด “คือแม่เขาแก่แล้ว ให้เขาอยู่เฉยๆ เกษียณ กินน้ำหมากไป แต่ทำไมมึงจะต้องไปทำให้คนไม่ชอบกูขนาดนี้ คือแบบเสื่อมอ่ะ เข้าใจปะ”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม

...