กระเทียมเป็นสมุนไพรที่นิยมนำไปทำอาหารและใช้เป็นยาพื้นบ้าน ซึ่งแม้กระเทียมจะมีสรรพคุณดีหลายอย่าง แต่ก็มีบางโรคที่ห้ามกินกระเทียมมากเกินไป เนื่องจากฤทธิ์ของกระเทียมอาจส่งผลให้โรคกำเริบ หรือเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้
บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปทำความรู้จัก "กระเทียม" สมุนไพรสรรพคุณมากมาย พร้อมทั้งทำความรู้จัก 5 มีอะไรบ้าง และวิธีกินกระเทียมสดอย่างถูกต้อง
รู้จัก ข้อดีและข้อเสียของกระเทียม
กระเทียมมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ดังนี้
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย-เชื้อรา ช่วยยับยั้งเชื้อโรคในร่างกาย
- ช่วยลดไขมัน LDL หรือไขมันเลว และเพิ่มไขมันดี (HDL) แทน
- ลดความดันโลหิตสูง
- เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านทานไข้หวัด และลดการอักเสบ
- ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน
- บำรุงหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยย่อยอาหารบางชนิด
- ลดอาการอักเสบตามข้อ
- ขับลม ขับเหงื่อ
- บำรุงธาตุ กระจายโลหิต
อย่างไรก็ดี แม้จะมีประโยชน์และข้อดีหลายอย่าง แต่หากกินกระเทียมเยอะก็อาจผลเสียต่อร่างกายได้ด้วยเช่นกัน ดังนี้
- แสบท้อง ระคายกระเพาะ เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ร้อนแรง และกรดสูง
- กลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง
- เลือดออกง่าย และหยุดช้า เนื่องจากฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
- มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้
- ท้องเสีย หรือปวดบิด
- ความดันตก
...
5 โรคที่ห้ามกินกระเทียมมีอะไรบ้าง
แม้กระเทียมจะดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับบางโรค การกินกระเทียมมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียได้ ซึ่งผู้ป่วยที่ควรระวังหรือหลีกเลี่ยงมีดังนี้
1. โรคกระเพาะอาหาร หรือกรดไหลย้อน
เนื่องจากกระเทียมสดมีฤทธิ์เผ็ดร้อน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณกระเพาะได้ นอกจากนี้การกินกระเทียมจำนวนมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อน แน่นท้อง หรือจุกเสียดได้
2. ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย หรือเกล็ดเลือดต่ำ
เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด หากกินมากเกินไปอาจทำให้เลือดหยุดไหลยาก ฟกช้ำง่าย หรือเลือดกำเดาไหลได้บ่อย
3. ผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด
หากเป็นผู้ป่วยและจำเป็นต้องกินยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ เช่น Warfarin, Aspirin หรือ Clopidogrel อาจทำให้เลือดเลือดออกในอวัยวะภายใน หรือเสี่ยงมีเลือดออกมาก เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์เสริมยาเหล่านี้
4. ผู้ป่วยโรคตับ
การกินกระเทียมสดมากเกินไป อาจทำให้เอนไซม์ตับสูงขึ้น เสี่ยงต่อการระคายเคือง ดังนั้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับควรเลี่ยงกินกระเทียมสด หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนกิน
5. ผู้ที่เป็นไมเกรน
เนื่องจากกระเทียมมีกลิ่นฉุนและฤทธิ์ร้อน อาจกระตุ้นอาการปวดหัวในบางรายได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องเข้าผ่าตัดควรงดหรือเลี่ยงกินกระเทียมสดอย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด เพราะอาจส่งผลให้เลือดออกมากหรือหยุดยากในระหว่างการผ่าตัดได้
กระเทียมดำ คืออะไร โรคที่ห้ามกินกระเทียมดำมีอะไรบ้าง
กระเทียมดำ (Black Garlic) คือ กระเทียมสดที่ผ่านการแปรรูปด้วยการหมักบ่ม ทำให้เปลี่ยนสีเป็นสีดำ ไม่มีกลิ่นฉุน เนื้อนุ่ม รสชาติหวานยิ่งขึ้น และกินได้ง่ายกว่ากระเทียมสด แต่ผู้ที่ใช้ยาลดความดัน ยาละลายลิ่มเลือด ผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน หรือผู้ที่ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการกิน เนื่องจากกระเทียมดำมีน้ำตาลสูงขึ้นเล็กน้อย
แจกวิธีกินกระเทียมสดที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดี
หากต้องการกินกระเทียม เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย แนะนำให้กินดังนี้
- บดหรือสับให้ละเอียดก่อนกิน เพราะอัลลิซิน สารในกระเทียมจะถูกกระตุ้นหลังบดทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
- ไม่ควรกินตอนท้องว่าง เพื่อลดโอกาสระคายเคืองกระเพาะ
- ควรกินพร้อมอาหาร เพื่อช่วยย่อยอาหารให้ง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงการกินก่อนเข้านอน เนื่องจากอาจทำให้แสบท้อง หรือเรอได้
อย่างไรก็ดี แม้กระเทียมเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากเป็นโรคที่กล่าวมาในข้างต้น แนะนำให้งด เลี่ยง หรือกินในปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้งหากมีโรคประจำตัวหรือกินยาเฉพาะทางอยู่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ขมิ้นชัน ห้ามกินคู่กับอะไร เปิด 10 ของต้องห้าม กินยา วิตามินตัวไหนควรเลี่ยง
- รู้จัก 2 โรคที่ห้ามกินขิง มีโรคอะไรบ้าง มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร
...