ถ้าไม่คิดอะไรมาก ปล่อยให้การเมืองชิงอำนาจ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จกันไป ประชาชนไม่เกี่ยว สุดท้ายผลกรรมก็จะตกกับ ประชาชนตาดำๆ อยู่ดี ประเทศไทย เคยตั้งเป้าหมายเอาไว้จะเป็นศูนย์กลางสินค้าการเกษตร ศูนย์กลางการบิน ศูนย์กลางการเงินดิจิทัล ศูนย์กลางการประชุม ศูนย์กลางด้านสุขภาพอนามัย สารพัดจะสรรหามาเล่า แม้กระทั่งเคยประกาศว่า จะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย วันนี้เมื่อเทียบกับ ประเทศในอาเซียน ด้วยกันที่เคยอยู่ล้าหลังกำลังจะแซงหน้าจนไม่เห็นฝุ่น ดูจากการวิเคราะห์และการประเมินทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงโดยสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ประเทศไทย กำลังถูกจัดให้อยู่โซนเดียวกับ กัมพูชา สปป.ลาว และ กัมพูชาครองตำแหน่งรั้งบ๊วยถาวรไม่เชื่อไปอ่านรายงานล่าสุดของ ธนาคารโลก ดู ชื่อ Thailand Digital Data Infrastructure Roadmap Report ส่งสัญญาณเตือนภัยถึงความล่าช้าและความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย สู่การเป็น เศรษฐกิจดิจิทัล เต็มรูปแบบ และยังชี้ถึงจุดอ่อนเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างรากฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง อาทิ ทักษะการครอบคลุมการใช้ประโยชน์จากเอไอ ไทยยังตามหลังประเทศอาเซียนอื่นคือประมาณร้อยละ 6 ของประชากร (แต่ไทยเป็นแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติที่สำคัญ) สะท้อนไปถึงการพัฒนาของบุคลากรและผู้บริหารภาครัฐ กฎหมายหรือตัวแปรในการสกัดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ซับซ้อน (มาจากความล้าหลังของภาครัฐ) รวมทั้งการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เข้มงวดแต่เต็มไปด้วยช่องโหว่ (รัฐบาลดิจิทัลที่ไม่สมราคาคุยและขาดเอกภาพ)อยากรู้รายละเอียดไปหาอ่านเอาเอง แต่ภาพเป็นข่าวที่ปรากฏ เป็นเรื่องใหญ่ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ถ้าไม่นับว่าใครเป็นต้นตอการปล่อยข่าว (รู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง) หรือที่มาของข่าวนี้มาจากไหนเพื่อประโยชน์อะไร ใครเกี่ยวข้องไม่เกี่ยวข้องโดยไม่ต้องมีการโฆษณาว่าเป็นรัฐบาลชุดแรกที่กล้าอายัดทรัพย์สินจากสแกมเมอร์ เพราะนั่นไม่ใช่คำตอบหรือจะเจอะเจอกันในสถานที่ไหนต่างกรรมต่างวาระกันอย่างไร ในเมื่อข้อเท็จจริงหนึ่งเดียวคือได้ประโยชน์และใช้ประโยชน์อะไรจากบุคคลในข่าวที่ถูกยึดทรัพย์ไปบ้าง ไปย้อนข่าวเก่าๆดูจะเป็นคำตอบของสัมพันธ์ระหว่างคนในข่าวได้เป็นอย่างดี ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าบุคคลในข่าวจะร่วมกระบวนการสแกมเมอร์ แต่เงินดิจิทัลก็คือเงินดิจิทัล ไม่สามารถแยกประเภทได้ว่าเป็นเงินสีอะไร ดังนั้น จึงมีทั้งคนที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจแต่ตกกระไดพลอยโจนก่อนจะจบบรรทัดสุดท้าย การเมืองไทย ยากแท้หยั่งถึง อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น บอกแล้วว่า การเมืองไทยยิ่งกว่าการละคร ถ้าจะขุดพฤติกรรมเอามาชำแหละเป็นรายบุคคล ถึงปัจจุบันจะฟอกขาวอย่างไร จะสร้างภาพอย่างไร จะไปซื้อสื่อ ใช้สื่อ จ้างบริษัทพีอาร์ ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อย่างไร โฆษณาชวนเชื่ออย่างไรแต่อดีตไม่มีทางกลับไปฟอกขาวได้ ที่เคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม