
นายพัฒนพงษ์ พงษ์ศุภสมิทธิ์ รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังนำคณะสื่อมวลชนเดินทางไปเยือนนครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาและเยี่ยมชมแนวทางการบริหารจัดการระบบรางและกลยุทธ์การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้า (Transit-Oriented Development: TOD) ว่า การเดินทางครั้งนี้ นอกจากจะได้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้รอบสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ยังได้เปิดมุมมองใหม่ในการเข้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกอบรมระบบรางของบริษัท โตเกียว เมโทร จำกัด หรือที่เรียกว่า Tokyo Metro Academy “โตเกียว เมโทร” ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมขนส่งระบบรางในญี่ปุ่น เพื่อเป็นแนวทางในการนำมาปรับใช้ ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทย
ทั้งนี้ในฐานะญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบขนส่งมวลชนระบบรางของโลก และถือเป็นแม่แบบที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการผสานระบบรางเข้ากับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ TOD และการเยี่ยมชมโครงการพัฒนาขนาดใหญ่บริเวณ Takanawa Gateway City จึงได้ตอกย้ำถึงแนวคิดที่ว่าการพัฒนาระบบขนส่งจะแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืน ต้องมีรายได้เสริมที่นอกเหนือจากค่าโดยสารเข้ามาสนับสนุน
นายพัฒนพงษ์ กล่าวย้ำถึงความสำคัญของแนวคิดนี้ว่า ปัจจุบันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับระบบรางของไทย รวมถึงกฎหมายของ รฟม. ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ รฟม. มีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์มากขึ้น ส่งผลทำให้มีรายได้ที่เกิดจากการพัฒนาเหล่านี้ขึ้น ซึ่งการมีรายได้ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบราง ลดภาระทางการเงินของประชาชน และลดการพึ่งพาเงินอุดหนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนโครงการสำคัญ ๆ ของรัฐบาล เช่น นโยบายค่าโดยสารสายสีม่วง ในราคาสูงสุดไม่เกิน 40 บาทตลอดวัน เป็นต้น
“ห้วยขวาง”นำร่องตามแนวคิด TOD
และจากการศึกษาโมเดลการพัฒนาในญี่ปุ่นครั้งนี้ รฟม. จึงได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อนำพื้นที่ที่มีศักยภาพมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ตามแนวคิด TOD โดย รฟม.มองว่า พื้นที่รอบๆสถานีรถไฟฟ้าในไทยที่มีศักยภาพสูงที่สามารถนำมาเป็นพื้นที่นำร่องก่อนคือ “พื้นที่ห้วยขวาง” เนื่องจากเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของโครงข่ายรถไฟฟ้า กล่าวคือ เป็นพื้นที่ของ รฟม. เดิมที่ใช้ในการก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงสายสีน้ำเงิน ซึ่งยังสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้
นายพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาพื้นที่ห้วยขวางนี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ รฟม. วางแผนมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ยังติดขัดด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายบางประการ โดยมีการตีความกฎหมายใหม่ที่เปิดช่องให้ใช้พื้นที่เพื่อ “ประโยชน์ร่วมกัน” ทั้งในด้านกิจการรถไฟฟ้าและประโยชน์ของประชาชนและ รฟม. ทำให้แผนงานนี้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะในส่วนที่ติดกับถนนพระราม 9 ที่จะเน้นการพัฒนาเชิงพาณิชย์สูง
สำหรับแผนการดำเนินการนั้น รฟม. ได้แบ่งลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่หลากหลาย และจะเริ่มจากการพัฒนาโครงการด้านสาธารณสุขเป็นพื้นที่แรก เพื่อดำเนินโครงการ Metro-Medical หรือการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนเข้ากับบริการทางการแพทย์บนพื้นที่สถานีของรถไฟฟ้าสายสีส้ม บริเวณห้วยขวาง ริมถนนพระราม 9 ก่อน โดยหากได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ในช่วงเดือนธันวาคม 2568 คาดการณ์ว่า การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวจะเริ่มได้ภายในปี 2569
นอกจากประเด็นเรื่อง TOD แล้ว อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของการเดินทางไปโตเกียวในครั้งนี้ คือ การเยี่ยมชม Tokyo Metro Academy หรือ ศูนย์ฝึกอบรมระบบรางของ บริษัท โตเกียว เมโทร ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่บริหารจัดการหลักสูตรการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการเดินรถไฟอย่างครบถ้วนและมีมาตรฐานระดับสากล โดยศูนย์แห่งนี้ยังได้เปิดสอนหลักสูตรออนไลน์เพื่อรองรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมจากทั่วโลก
นายพัฒนพงษ์ ได้กล่าวเปรียบเทียบกับศูนย์ฝึกอบรมของไทยว่า ประเทศไทยได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรระบบราง” ในความรับผิดชอบของ รฟม. ที่คลองบางไผ่ (บริเวณสายสีม่วง) มาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปีแล้ว โดยเริ่มเปิดมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2562 และได้มีการจัดหลักสูตรที่หลากหลายครอบคลุมทั้งบุคลากรของ รฟม., ผู้ประกอบวิชาชีพในระบบราง, อาจารย์, และประชาชนทั่วไปที่สนใจ องค์ความรู้ที่ถ่ายทอดครอบคลุมตั้งแต่การควบคุมรถไฟฟ้า การซ่อมบำรุง การจัดการเหตุการณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงความรู้พื้นฐานของงานระบบต่าง ๆ อาทิ ระบบสถานี ระบบสื่อสาร และระบบลิฟต์/บันไดเลื่อน โดยมีวิทยากรทั้งจากบุคลากรผู้เชี่ยวชาญของ รฟม. เอง และพันธมิตรด้านวิชาการ
แม้ศูนย์ฝึกอบรมของ รฟม. จะมีแนวคิดและหลายส่วนที่คล้ายคลึงกับของโตเกียว เมโทร แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเยี่ยมชมในครั้งนี้คือความครบถ้วนสมบูรณ์และการลงทุนที่สูงของญี่ปุ่น รฟม. จึงมุ่งมั่นที่จะนำแนวทางของ Tokyo Metro Academy มาปรับปรุงศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรระบบรางของไทยให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการอบรมพนักงานขับรถที่จะต้องมีใบอนุญาตตามกฎหมายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้สำเร็จหลักสูตรมีความรู้ความชำนาญตามมาตรฐานสากล และสามารถปฏิบัติงานในหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ รฟม. ในการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับโลก โดยมีเป้าหมายหลักสองประการคือ ประการแรกคือ สร้าง “ความยั่งยืนทางการเงิน” ผ่านการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ (TOD) ซึ่งจะทำให้ รฟม. มีรายได้ที่ช่วยเสริมเสถียรภาพของระบบขนส่งมวลชนโดยรวม และประการที่สองคือ สร้าง “ความยั่งยืนด้านบุคลากร” ด้วยการยกระดับศูนย์ฝึกอบรมฯ สู่การเป็นศูนย์กลางพัฒนาบุคลากรระบบรางของประเทศไทย