โลดแล่นในวงการบันเทิงมามากกว่าสิบปี นักแสดงสาวสวย เก่ง อารมณ์ดี "แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นช์" สั่งสมประสบการณ์ รับบทบาทการแสดงละครหลากหลาย พร้อมพลังเหลือล้น จนมาถึงจุด “เฉิดฉาย” กลายเป็นดาวโซเชียลในฐานะ “แม่น้องบอง” ตุ๊กตาต้นกระบองเพชรพูดได้ จุดเปลี่ยนโด่งดังพากราฟชีวิตพุ่ง เป็นที่รักชื่นชอบของแฟนๆ จนวันนี้...มาถึงอีกหนึ่งบทพิสูจน์ฝีมือของ “แจ็คกี้ ชาเคอลีน” กับการแสดงภาพยนตร์เต็มตัวเรื่องแรกในชีวิตเรื่อง “ดีว่า..ราวี” จากค่าย GDH 10 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ มหาศึกสงครามระหว่างนักร้องสองเจเนอเรชัน ที่จะห้ำหั่นกันจนฮาไฟลุก! กำกับความสนุกโดย เติ้ล–กิตติภัค ทองอ่วม พร้อมโปรดิวเซอร์ เดียว–วิชชพัชร์ โกจิ๋ว และ สุย–สุวิมล เตชะสุปินัน เสริมทัพด้วยทีมแสดงนำ ปิงปอง–ธงชัย, นินิว เพชรด่านแก้ว, นุนิว–ชวรินทร์ และ เก่ง– หฤษฎ์ “แจ็คกี้” รับบท ปลายฝัน มาร์กาเรต เฮง ดีว่า 2 ล้านตลับ ผู้โด่งดังในยุค 90’ และห่างหายจากวงการบันเทิงไปหลายปี จนถึงวันที่ดีว่าต้องหอบสังขารพลัสไซส์และอีโก้สูงปรี๊ด หาทางคัมแบ็กอีกครั้ง แต่ก็ต้องเผชิญวิบากกรรมที่มาในรูปแบบไอดอล GEN Z ที่ชื่อว่า “แก๊งตาคลี”เพราะคำว่า “ดีว่าตัวแม่” ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ งานนี้ “แจ็คกี้” ทุ่มเทสุดพลังเพื่อถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาให้ดีที่สุด ต้องปรับลุคตัวเองใหม่ ปรับภาษากายและทุกๆอย่างให้มี “คาริสม่า” มีออร่าของความ “สวยสะพรึง” ในสไตล์ของ “ดีว่าตัวแม่” ที่แท้จริง ถึงกับยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิต! “แจ็คกี้” ต้องปรับเปลี่ยนรูปร่าง ด้วยการเพิ่มน้ำหนักอย่างต่ำ 10 กก. และยังต้องทำการลดน้ำหนักลงอีกเกือบ 10 กก. ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน!! รวมถึงการทำการบ้าน ทั้งร้อง ทั้งเต้นอย่างหนักหน่วง เพื่อฉากดวลสเต็ปปะทะแก๊งตาคลี “แจ็คกี้รับบทปลายฝัน ซุปเปอร์ สตาร์ที่เคยดังมากๆ เป็นศิลปินระดับยอดขายทะลุ 2 ล้านตลับ วันแคสต์เนี่ยพี่เติ้ลเป็นคนแคสต์เอง ตอนนั้นคิดว่าแค่ได้มาแคสต์ใน GDH ก็ภูมิใจแล้ว เรียกว่าไหว้พระทุกที่ ทำทุกทางมูสุดๆ ตอนนั้นเหมือนจะไม่ได้แคสต์ด้วย เพราะมีงานแต่งเพื่อนสนิทที่ จ.เชียงใหม่ โชคดีบาปบุญมาก สุดท้ายก่อนบินได้มาแคสต์ก่อน เสร็จปุ๊บก็กลับไปที่เชียงใหม่ ก่อนไปงานแต่งก็แวะบอกเจ้าที่ที่บ้านนิดนึง บอกว่าถ้าได้เล่นเดี๋ยวจะมาล้างให้เลย หลายวันถัดมาก็ได้ทราบข่าวดีค่ะ ดีใจมากแต่ต้องบินกลับกรุงเทพฯ เกือบลืมทำความสะอาดเจ้าที่ แม่บอกว่าหยุดก่อน! กำลังจะขับรถออกไปสนามบินแล้ว (ยิ้ม)” ความยากที่สุดในการสวมบทนี้ แจ็คกี้เผย “คือการเตรียมตัวเพื่อเป็นดีว่าตัวแม่ค่ะ เราต้องอัปสกิลทุกอย่าง ทั้งฝึกร้อง ฝึกเต้นให้เป๊ะปังที่สุด ในส่วนของน้ำหนักที่ต้องเพิ่ม แจ็คกี้มีเวลา 1 เดือน เป้าหมายที่พี่เติ้ล ผู้กำกับ ตั้งไว้คือ อยากให้ถึง 70 กก. จากตัวเลขเดิมคือ 53 กก. ภารกิจนี้ยากมาก ใครบอกว่าอ้วนง่าย ไม่จริงเลย คือความอ้วนมันจะง่ายก็ต่อเมื่อมันสะสมมาเป็นระยะเวลานาน แต่เพื่อเป้าหมาย เราก็อยากไปให้ถึง ก็ชั่งน้ำหนักทุกวัน โอ้โห้ วันนี้เราทำได้ดีมาก กินแป้งสามมื้อเลย กินหมูกระทะ หมาล่าด้วย มีวันที่ขึ้นมา 58 กก. 2 วันถัดไปเหลือ 56 กก. ใจมันก็แป้ว ฉันก็กินเหมือนเดิมทำไมมันถึงไม่ขึ้น มันก็คือความเครียดหนึ่งอย่างที่เราจะต้องเผชิญ แต่สุดท้ายโดยภาพรวมถือว่าเราทำได้ดี แล้วก็เรื่องร้องเพลงด้วย เพราะในเรื่องต้องเป็นดีว่า ต้องฝึกร้องให้ได้ เต้นให้ได้ เป็นการบ้านที่เราต้องทำให้ดี” บทเลือกคน คนเลือกบท! ตอนอ่านบท “แจ็คกี้” ก็รู้สึกอินไปกับเรื่องราวมาก “ปลายฝันมีหลายๆอย่างที่เหมือนกับตัวแจ็คกี้นะ แบบไม่น่าเชื่อ ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่เหมือนมาเติมเต็มชีวิตแจ็คกี้ช่วงนี้เหมือนกัน เป็นตัวละครที่น่าสงสาร มีความกังวลบางอย่างในชีวิต หมายถึงว่าในชีวิตของแจ็คกี้ในช่วงนี้ก็มีการคิดมีการวางแผน เหมือนสะท้อนแล้วก็สอนตัวแจ็คกี้เองเหมือนกันว่าสิ่งที่เป็นคำถามแจ็คกี้อยู่ตอนนี้ ถ้าเกิดแจ็คกี้สามารถคิดได้เหมือนปลายฝันก็คงจะดี ต้องไปติดตามกันค่ะ และด้วยความที่เป็นหนังเรื่องแรก เรายังไม่มีประสบการณ์ มันไม่เหมือนละครที่เราเคยเล่นมา ถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้พัฒนาตัวเองในฐานะนักแสดง ซึ่งมันคุ้มค่าสำหรับชีวิตแจ็คกี้มากๆ ถามว่ามันยากมั้ยมันยาก แต่ถามว่ามันคุ้มมั้ย มันคุ้มมาก เป็นโอกาสที่แจ็คกี้คิดว่าไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้เข้ามาอีกเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าเวลาจะน้อย หรือจะเจอความยากตรงไหน ต้องเสียสละหลายอย่าง แต่เรารู้สึกว่าเรายินดีค่ะ อยากจะทำทุกอย่างให้มันเต็มที่ มันคุ้มค่าสำหรับชีวิตแจ็คกี้ มันอาจจะเป็นครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งเดียวที่ได้รับบทแบบนี้ อยากให้มาดูกันเยอะๆ อยากให้มาสนุก บันเทิง และก้าวข้ามผ่านปีนี้ไปด้วยกันอย่างมีความสุขกับภาพยนตร์เรื่องดีว่า.. ราวี 10 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ดูได้ทุกเพศ ทุกวัย สนุกถูกใจแน่นอนค่ะ”. อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่