เข้าสนามพระฯวันนี้ ก็ขอชวนชาวพระเครื่องร่วมส่งกำลังใจให้คนหาดใหญ่ ที่กำลังทุกข์ยากจากน้ำท่วมใหญ่ (อีกแล้ว) เพราะช่วงพ.ย.-ธ.ค. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำและพายุหมุนเขตร้อนพัดเข้าภาคใต้ของไทยเต็มๆ ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก และยังมีน้ำหลากจากภูเขาที่ดินอุ้มน้ำไม่ไหว ก็เลยลงมาท่วมอ่วมหาดใหญ่ นอกจากหาดใหญ่แถวอยุธยาก็ท่วมไม่น้อย ไม่รู้ว่าเมืองไทยจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ดีกว่านี้เมื่อไหร่ เพราะรู้ทั้งอยู่แล้วว่าพอฝนตกหนัก น้ำมามาก ระบายไม่ได้ ก็ท่วมทุกที พอแล้งน้ำก็แห้งเหือด เกษตรกรไม่มีน้ำเพาะปลูก พอจะสร้างเขื่อน ซึ่งแก้ปัญหาได้ทั้งแล้งทั้งฝน ก็ถูกคนบางกลุ่มค้าน อ้างว่าจะทำลายนิเวศป่า หาดใหญ่ ซึ่งเคยเกิดน้ำท่วมหนัก ปี ๒๕๓๑ ปี ๒๕๔๓ ปี ๒๕๕๓ มาตอนนี้ปี ๒๕๖๘ ก็ยังแก้ปัญหาถาวรไม่ได้ ถ้าใครยังฟัง ยังกลัวลมปาก พวกดีแต่พูด แต่ไม่ทำอะไร เพราะทำไม่เป็น “มือไม่พาย เอาปากราน้ำ” ชีวิตผู้คนก็ต้องพังยับไปแบบนี้ชั่วชีวิต พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานแซม กรุเก่า วัดใหม่อมตรส ของก้อง พระสมเด็จ.ไปดูพระเครื่อง และขอพรให้คนที่ถูกน้ำท่วมพ้นภัยพิบัติกันเร็วๆดีกว่า องค์แรก พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานแซม (กรุเก่า) วัดใหม่อมตรส กรุงเทพฯ พระสภาพงามสมบูรณ์ รูปทรงถูกต้องเต็มฟอร์ม พิมพ์พระเพอร์เฟกต์ทุกเส้นศิลป์ ผิวเนื้อเนียนตาด้วยแป้งโรยพิมพ์ บอกถึงการเก็บรักษาอย่างรู้คุณค่า เนื้อในเข้มข้นมากมวลสาร “เนื้อจัด” อย่างพระ “กรุเก่า” ที่ปัจจุบันยากจะเจอ มีมาให้ชมแบบนี้ ใครยังมีตังค์เหลือใช้ก็ต้องรีบคุย เพราะ เสี่ยก้อง พระสมเด็จ คงถือไว้ไม่ได้นาน พระสมเด็จจิตรลดา พ.ศ. ๒๕๐๘ ร.๙ ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.ตามมาด้วย พระสมเด็จจิตรลดา ร.๙ สวนจิตรลดา กรุงเทพฯ พ.ศ.๒๕๐๘ พระพิมพ์ที่สร้างสำเร็จด้วยฝีพระหัตถ์ โดยจำลององค์พระพุทธนวราชบพิตร “หลวงพ่อจิตรลดา” เป็น พระพิมพ์ รูปทรงสามเหลี่ยม สร้างด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ผสมเรซิน ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๘ และพระราชทานโดย ไม่มีใบประกาศ ปีต่อๆมามีการตกแต่งแม่พิมพ์ สร้างเพิ่ม และพระราชทานพร้อมใบประกาศ บอก ชื่อยศผู้รับ พร้อมเลขลำดับ ลงลายพระนามกำกับ ถึงปี พ.ศ.๒๕๑๓ จึงยุติ--พระจึงมีหมุนเวียนราว ๓ พันองค์ เป็นพระพิมพ์ทรงค่าของแผ่นดิน ตามนามพระที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กำหนดว่าเป็น พระกำลังแผ่นดิน เป็นพระพิมพ์ยอดนิยม ที่ถือเป็นความภาคภูมิใจและมงคลชีวิตของผู้ครอบครอง ยิ่งเป็นพระยุคแรก ที่มีมวลสารอัดแน่น พิมพ์พระสวยคลาสสิกเดิมๆแบบองค์นี้ ของ เสี่ยกบ–ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา ซึ่งสะสมแต่พระมาตรฐาน แบบรู้ลึก รู้จริง พระลือหน้ามงคล กรุประตูลี้ ของปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์.องค์ต่อไปเป็น พระลือ หน้ามงคล กรุวัดสังฆาราม (ประตูลี้) อ.เมือง ลำพูน พระพิมพ์ยอดนิยมเมืองเหนือ สกุล “พระลำพูน” ที่เพียบ พร้อมด้วยพุทธศิลป์สมัยหริภุญชัย อายุการสร้างกว่า ๑,๒๐๐ ปี และเชื่อมั่นได้ในพุทธคุณเลื่องลือด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย ตามมาตรฐาน “พระลำพูน” อย่างพระรอด พระคง พระบาง ฯลฯ ค้นพบที่กรุวัดประตูลี้ ๑ ใน ๔ วัด ที่พระนางจามเทวีสร้างไว้เป็นจตุรพุทธปราการเพียงแห่งเดียว อยู่รวมกับพระเลี่ยง พระซุ้มปรางค์ พระสิบสอง พระเลี่ยงหลวง แต่พบแบบค่อยๆขุด เจอครั้งละไม่มาก ไม่เหมือนการเปิดกรุอย่างวัดมหาวัน วัดดอนแก้ว พระมีแม่พิมพ์เดียว แยกเล่นใหญ่-เล็ก ตามขนาด อย่างองค์นี้ของ เสี่ยปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์ เป็นพระพิมพ์หน้ามงคล (ปีกชิด) สภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ ทรงดี พิมพ์เด่น ผิวมีคราบฝ้า รากรุ ฝังแน่น บอกอายุอย่างเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันหายากกว่าพระแชมป์ เพราะเป็นพระอินเทรนด์ ของดีราคาเบา เพราะใช้พึ่งพุทธานุภาพแบบคุ้มเกินราคา แค่ครึ่งล้าน++ ที่พอจ่ายได้ พระพิมพ์ยืนวันทาเสมา สมเด็จพระญาณสังวร (สุก) วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.องค์ต่อไป พระพิมพ์ยืนวันทาเสมา สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัด ราชสิทธาราม (พลับ) เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ ที่สมเด็จฯท่านสร้างบรรจุไว้ ครั้งขึ้นครองตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม ซึ่ง ร.๑ ทรงสร้างขึ้น โดยร่วมกับ “วัดพลับ” เดิม ต่อมาค้นพบ พระแตกกรุ จากองค์พระเจดีย์โดยบังเอิญ แต่ยังคงได้รับความนิยม เรียกเป็น “พระวัดพลับ” ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อผง ทรงกลม พุทธศิลป์รัตนโกสินทร์ ฝีมือช่างหลวงแบบเรียบง่าย พระมีหลายพันองค์ แยกพิมพ์ได้เป็นพิมพ์สมาธิใหญ่-เล็ก สมาธิ-เข่ากว้าง พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่-เล็ก พิมพ์พิเศษ เป็นพระปิดตาและพิมพ์ยืนวันทาเสมา อย่างองค์นี้ ที่มีสภาพสมบูรณ์สวย (แชมป์) ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสนามนี้ก็ของ เสี่ยกบ–ฐิการ รูปเหมือนหล่อโบราณ ( บัวรอบ) หลวงปู่ทวด วัด ช้างให้ ของดิษฐ์ พระราม ๕.องค์ต่อไปคือ พระรูปเหมือนบัวรอบ ก้น ลายเซ็น พ.ศ.๒๕๐๘ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี ที่ พระครูวิสัยโสภณ (ทิม ธมมฺธโร) สร้างปี พ.ศ. ๒๕๐๘ มี ๕,๐๐๐ องค์ เพื่อหาทุนสร้างอาคาร ร.ร.เบญจมราชูทิศ จ.ปัตตานี.....n เป็นรูปหล่อลอยองค์ หลวงปู่ทวด นั่งสมาธิบนฐานบัวคว่ำ-บัวหงาย บรรจุเม็ดกริ่งในองค์ ใต้ฐานตอกอักษร ๓ แถว แถวที่ ๑ “วิสัยโสภณ” แถว ๒ “หลวงปู่ทวด” แถว ๓ “วัดช้างให้” พระเป็นเนื้อโลหะผสม เป็นรูปเหมือน รุ่นนิยม--องค์งามๆ สภาพเดิมๆอย่างองค์นี้ของ เสี่ยดิษฐ์ พระราม ๕ ราคาขึ้นหลักแสน เหรียญปั๊ม หลังหนังสือใหญ่ พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ของบอมเบย์ สุพรรณ.องค์สุดท้ายคือ เหรียญปั๊ม หลังหนังสือใหญ่ บล็อกนิยม (เสาอากาศ) พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี สร้างออกคราวเดียวกับ เหรียญหล่อเตารีด โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ทรงอุปถัมภ์การสร้าง ทำพิธีที่วัดส่วนหนึ่ง ในกรุงเทพฯอีกส่วน มี เหรียญหล่อ หลังเตารีดใหญ่ กลาง เล็ก กับเหรียญปั๊มหลังหนังสือ (ใหญ่) พิมพ์ (ท) ใต้ฐานกับพิมพ์ธรรมดา พิมพ์หลังหนังสือเล็ก (ท) ใต้ฐานกับไม่มี (ท) เนื้อเป็นโลหะผสมรมดำ องค์นี้ของ เสี่ยบอมเบย์ สุพรรณ เป็นพิมพ์หนังสือใหญ่ไม่มี (ท) บล็อกนิยม (เสาอากาศ) สภาพ สวยกริ๊บ (แกะกล่อง) ผิวเดิมเต็มร้อย แบบที่สายตรงเรียก “ผิวหิ้ง” เป็นการ เปรียบเทียบว่าของที่อยู่บนหิ้งบูชา คือสิ่งมีคุณค่า จึงไม่ค่อย มีใครแตะ ต้องหยิบจับบ่อย สภาพจึงสมบูรณ์ ผิวพรรณสวยเหมือนใหม่ ไม่ช้ำมือ--ไม่เหมือนเมียหลวงถ้าถูกเปรียบ เทียบว่า ผิวหิ้ง แสดงว่าใช้จนเก่า เลยเอาไปวาง (ทิ้ง) บนหิ้ง ซึ่ง ผิวหิ้ง หมายถึง ผิวเหี่ยว แร้วมาถึง เรื่องปิดท้าย สไตล์สนามพระวิภาวดี ซึ่งเกิดในบ้าน เสี่ยเชน นักนิยมพระ เครื่องเมืองใต้ ที่กำลังโกลาหลบรรจุข้าวของเครื่องใช้ใส่ถุงเตรียมนำไปมอบผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งมีเพื่อนๆ มาช่วยกันสิบกว่าคน พอ เสี่ยเชน บอกว่าจะขับรถไปส่งด้วยตัวเอง พรรคพวกก็รีบห้ามว่าอันตรายอย่าไปเลย แต่ เสี่ยเชน ก็บอกขำๆว่าไม่ต้องห่วง ผมมีพระดีใช้เหมาะกับสถานการณ์ แล้วก็ล้วงสร้อยหยิบ เหรียญหลวงปู่ทวด หลังเตารีด (อาปาเช่) ให้ดู บอกว่าอยู่ในคอแล้วสบายใจได้ว่ารอดปลอดภัย แคล้วคลาด แต่ เสี่ยอนุชา ที่ติดตามข่าวน้ำท่วมเกาะติด เห็นแล้วขมวดคิ้วบอกว่า อาปาเช่ คงไม่เหมาะ ช่วยเปลี่ยนเป็น พระหลวงปู่ทวด รุ่น ลอยน้ำ เถอะ เพราะตรงกับสถานการณ์น้ำท่วมกว่า เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม